เงินน้อย ก็รวยได้ ด้วย DCA

นักเทรดหลายคน คงเคยมีควาามรู้สึกกล้าๆ กลัวๆ ที่จะเข้าซื้อทรัพย์สินในตลาด เพราะกังวลเรื่องราคาที่ไม่แน่นอน ซื้อแล้วก็กลัวว่าราคาจะร่วง พอร์ตติดลบ แล้วก็จะทนไม่ได้นอนไม่หลับ ต้องรีบคัทลอส ออกไปก่อน หรือกลัวว่าจะตกรถเพราะซื้อไปนิดเดียวเอง แต่ราคาก็พุ่งขึ้นไปอย่างรวดเร็ว ราคาสูงแล้วก็ไม่กล้าที่จะซื้อเพิ่มอีก ขึ้นๆ ลงๆ ตามอารมณ์

การลงทุนแบบ DCA คืออะไร?

DCA (Dollar-Cost Averaging ) เป็นกลยุทธ์ในการลงทุนอย่างง่าย ด้วยวิธีการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ โดยการซื้อทรัพย์สินในจำนวนเท่าๆ กัน เป็นประจำไปเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่องยาวนาน เพื่อคาดหวังผลตอบแทนในระยะยาวในทรัพย์สินที่เลือกไว้ เพื่อเก็บสะสมสินทรัพย์ให้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
โดยไม่สนใจว่า ราคาสินทรัพย์ที่ซื้อ ณ ช่วงเวลานั้นจะอยู่ที่เท่าไหร่ ไม่คำนึงว่าตลาดจะเป็นเทรนด์ขึ้นหรือเทรนด์ขาลง DCA เป็นกลยุทธ์ในการถัวเฉลี่ยต้นทุน ทำให้ต้นทุนในการซื้อทรัพย์สินถูกเฉลี่ยลงไป มากกว่าการซื้อครั้งเดียวไม้เดียว ซึ่งมีประโยชน์มาก ช่วยตัดปัญหาเรื่องการใช้อารมณ์ในการเทรดของเราออกไปได้หมดเลย และลดผลจากการขึ้นลงของตลาดต่อพอร์ตของเราด้วย

คำว่า DCA “Dollar Cost Averaging” นั้นถูกบัญญัติขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1949 ในหนังสือชื่อ The Intelligent Investor เขียนโดย Benjamin Graham ศาสตารจารย์ด้านการลงทุน ผู้ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นบิดาแห่งการลงทุนแบบเน้นคุณค่า (Value Investing) ที่แม้แต่ Warren Buffett นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จสูงที่สุดในโลก ยังให้คำนิยมเกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้ไว้ว่าเป็น “หนังสือการลงทุนที่ดีที่สุด” ปัจจุบัน DCA ถูกใช้อย่างแพร่หลาย โดยนักลงทุนทั้ง รายย่อย และผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน เพื่อเป็นวิธีการจัดการความเสี่ยงในการลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายรูปแบบทั่วโลก

และวิธีนี้ก็ยังเหมาะกับนักลงทุนระยะยาวหรือมือใหม่ ที่ไม่มีเงินก้อนจะลงทุนทั้งหมดในคราวเดียว
โดยอาจจะแบ่งจากเงินรายได้ประจำมาทยอยลงทุนเพิ่มในทุกๆ เดือน ถือเป็นการลงทุนระยะยาวที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นการลงทุน หรือผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลาสำหรับการเก็งกำไรหรือเฝ้าดูกราฟ เพราะเป็นการซื้อแบบแทบจะ “ไม่ต้องสนใจราคา” หรือมูลค่าสินทรัพย์ในตลาดลงทุนเลย

วิธีการลงทุนแบบทำอย่างไร?

การเตรียมเงินลงทุน โดยหากเราต้องการลงทุนแบบ DCA ให้กำหนดเงินลงทุนจากกระแสเงินสดที่มี เช่น เงินเดือน หรือรายได้จากทรัพย์สินใดๆ ที่เราได้รับเข้ามาเรื่อยๆ อย่างสม่ำเสมอ หรือการแบ่งเงินลงทุน ที่กันไว้สำหรับลงทุนก้อนนี้โดยเฉพาะ

กำหนดช่วงเวลาที่จะซื้อ เช่น ทำการซื้อในทุกๆ วัน ทุกๆ อาทิตย์ หรือ ทุกๆ เดือน เป็นต้น เราสามารถใช้เครื่องมือต่างๆ ที่มี ในการตั้งเวลา เพื่อทำการซื้อแบบอัตโนมัติได้ โดยส่วนใหญ่จะมีบริการแบบนี้ให้ใช้งานได้ฟรีอยู่แล้ว เราสามารถเข้าไปกำหนดไว้ได้เลย

สมมติว่า เราทยอยลงทุนเดือนละ 1,000 บาท ทุกเดือนในทรัพย์สินที่มีผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 10% ต่อปี เมื่อผ่านไป 47 ปี เราจะมีเงินในพอร์ตประมาณ 1 ล้าน โดยใช้เงินต้นเพียง 5 แสนบาทเท่านั้น สร้างผลกำไรถึง 100% เลยทีเดียว

ข้อสำคัญการลงทุนแบบ DCA ก็คือ “ความสม่ำเสมอ” ทั้งเรื่องของจำนวนเงินลงทุนที่เท่าต้องเท่ากันทุกช่วงระยะเวลา และช่วงเวลาที่เราเข้าซื้อด้วย และเราจะต้องเลือกทรัพย์สินที่มั่นใจว่าเติบโตในอนาคตในระยะยาวอย่างแน่นอน เพราะหากเรา DCA ในทรัพย์สินที่มูลค่าลดลงไปเรื่อยๆ ก็จะทำให้ขาดทุนสะสมต่อเนื่องอย่างหนักเลยทีเดียว ถ้าหากเทียบ DCA กับการลงทุนแบบอื่นแล้ว อาจจะให้ผลตอบแทนเฉลี่ยที่ไม่สูงมากนัก แต่ก็มีความปลอดภัยค่อนข้างมาก